โครงสร้างและวิวัฒนาการทางดนตรีของ เพลงบลูส์ มักจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
เพลงบลูส์ กับโครงสร้างทางดนตรี คอร์ด บลูส์ กีต้าร์ ของเป็นสิ่งที่แท้จริงและเป็นเอกลักษณ์ของแนวดนตรีนี้ เมื่อพูดถึงโครงสร้างของบลูส์ สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือ โครงสร้าง 12บาร์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่เจาะจงและพบได้บ่อยในเพลงบลูส์ ตลอดทั้งเพลง แต่ละบาร์จะมีสัญลักษณ์ของคอร์ดตามที่กำหนด สำหรับ สอนกีต้าร์ บลูส์ โครงสร้างที่เป็นที่รู้จัก บรรทัดแรกมักจะซ้ำสองครั้ง ตามด้วยบรรทัดที่สามที่แตกต่าง หรือเรียกว่า AAB ในด้านเนื้อเพลง ทั้งนี้ คีย์และคอร์ดของเพลงบลูส์มักจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างง่าย ๆ และใช้คอร์ดพื้นฐานเช่น I IV และ V ที่เป็นพื้นฐานของโครงสร้าง 12บาร์บลูส์ คอร์ด ทั้งนี้ บลูส์ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะที่โครงสร้าง 12บาร์เท่านั้น แต่มันถือว่าเป็นรูปแบบที่พบบ่อยและเป็นเอกลักษณ์ของแนวดนตรีนี้ ในทางปฏิบัติ บลูส์เป็นดนตรีที่เน้นการแสดงออกและความรู้สึก ดังนั้น แม้ว่าโครงสร้างจะมีความสำคัญ แต่การประยุกต์ใช้ คอร์ด บลูส์ กีต้าร์ และการเปลี่ยนแปลงโดยนักดนตรีก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บลูส์มีเสน่ห์และความหลากหลาย
ใครคือนักดนตรี เพลงบลูส์ สากล ที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 20 และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรี เพลง บ ลู ส์ ยุคต่อไป
ในศตวรรษที่ 20 นักดนตรีบลูส์ หลายคนได้รับการยอมรับและมีอิทธิพลอย่างมากในวงการดนตรี ทั้งในยุคนั้นและยุคต่อมา พวกเขาไม่เพียงแต่ทำให้บลูส์ได้รับความนิยม แต่ยังกำหนดมาตรฐานให้กับนักดนตรียุคต่อไป นักดนตรีบลูส์เหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างรายชื่อให้กับตนเอง แต่ยังมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางสำหรับ เพลงแนวบลูส์ คือ นักดนตรีของยุคต่อไป และผลงานของพวกเขายังคงถูกเล่นและถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายในวงการ ดนตรีแนว บลูส์ (blue) ในปัจจุบัน ไม่เพียงแต่สร้างรายชื่อให้กับตนเองในศตวรรษที่20 แต่ยังมีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางสำหรับนักดนตรีของยุคต่อไป และผลงานของพวกเขายังคงถูกเล่นและถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายในวงการดนตรีในปัจจุบัน :
- Robert Johnson เป็นนักดนตรีที่เป็นตำนาน และมักถูกพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในนักดนตรีบลูส์ หนัง ดนตรีบลูส์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทุกยุค ผลงานเด่นของเขา โรเบิร์ต จอห์นสัน crossroads blues และ Sweet Home Chicago
- Muddy Waters มักถูกพิจารณาว่าเป็น พ่อของบลูส์ชิคาโก ผลงานของเขาส่งเสริมแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีร็อกและบลูส์ของยุคต่อไป ผลงานยอดเยี่ยมของเขาคือ Mannish Boy,Hoochie Coochie Man
- B.B. King ถือว่าเป็นหนึ่งในนักดนตรีกีตาร์บลูส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ การแสดงสดของเขาคือสิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขา และเพลงของเขามีการประยุกต์ใช้มากมายในแนวดนตรีอื่น ๆ ผลงานเด่น บี.บี. คิง the thrill is gone และLucille
- Howlin’ Wolf ด้วยเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์และแรงบันดาลใจ Howlin’ Wolf ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในนักดนตรีบลูส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ผลงานเด่นของเขาคือ Smokestack Lightnin’,Spoonful
เครื่องดนตรีชนิดไหนที่ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีเฉพาะของ เพลงแนวบลูส์
เป็นแนวดนตรีที่ วงบลูส์ มีการแสดงออกและความรู้สึกเป็นส่วนสำคัญ เหมือนกับ ดนตรีโฟล์ค การใช้เครื่องดนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการสื่อสารอารมณ์และความรู้สึกนี้ ในประวัติศาสตร์ของบลูส์ มีเครื่องดนตรีหลายชนิดที่มีบทบาทสำคัญและถูกพิจารณาว่าเป็นเครื่องดนตรีเฉพาะของแนวนี้:
- กีต้าร์บลูส์ ไม่ว่าจะเป็นกีตาร์โปร่ง กีต้าร์แจ๊ส กีตาร์ไฟฟ้า หรือกีตาร์สไลด์ กีตาร์เป็นเครื่องดนตรีที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในบลูส์ ตัวอย่างนักดนตรีที่ใช้กีตาร์ในการแสดงของตนได้แก่ B.B. King ,Robert Johnson ,Muddy Waters
- ฮาร์โมนิก้า เป็นเครื่องดนตรีเล็ก ๆ ที่สามารถสร้างเสียงได้ทั้งเสียงสูงและต่ำ และถือเป็นเครื่องดนตรีที่ไม่ขาดส่วนในบลูส์ ตัวอย่าง นักดนตรี ที่เป็นศิลปิน ฮาโมนิกา ยอดเยี่ยมได้แก่ Little Walter,Sonny Boy Williamson II
- เปียโน ในบลูส์แบบเก่า เปียโนมักจะเป็น เครื่องดนตรี แจ๊ส ที่ใช้ในการสร้างฟังก์ชั่นเมโลดี้และฮาร์มอนี นักดนตรีดัง ๆ ในยุคแรก ๆ ของบลูส์ที่ เล่นเปียโน ร้องเพลง ได้แก่ Pinetop Perkins,Otis Spann
- ดรัม ถึงแม้ว่าในบลูส์แบบเรียบง่าย ดรัมอาจไม่ถูกใช้มาก แต่เมื่อเข้าสู่ยุคของบลูส์แบบปลั๊กอินและบลูส์ชิคาโก ดรัมมีบทบาทในการเสริมสร้างจังหวะ
นอกจากนี้ยังมีเครื่องดนตรีอื่นๆ ที่ นักดนตรีบลูส์ ใช้ในบลูส์เช่น แบส ซักซอ และโทรโข่ง แต่กีตาร์ ฮาร์โมนิก้า คีย์ c เปียโน และดรัมเป็นเครื่องดนตรีที่ถือว่าเป็นเครื่องดนตรีเฉพาะของแนวดนตรีบลูส์มากที่สุด
แนวดนตรีใดที่ผู้คนประทับใจ ได้รับแรงบันดาลใจจาก เพลงแนวบลูส์ และมีการพัฒนาต่อยอดในรูปแบบใหม่
เพลงแนวบลูส์ คือ แนวดนตรีที่มีอิทธิพลอย่างมากในการพัฒนาและรูปแบบของดนตรีทั่วโลก ส่วนหนึ่งของแนวดนตรีที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก คอร์ด บลูส์ กีต้าร์ มากที่สุดคือ ร็อกแอนด์โรล ในยุค 1950s นักดนตรีร็อกแอนด์โรล เช่น Elvis Presley Chuck Berry และLittle Richard ได้นำมาตรฐานจากบลูส์มาผสมผสานกับเสียงดนตรี วงบลู ที่มีจังหวะแรงกว่าและผลิตออกมาเป็น เพลงที่เต้นได้และมีพลังเข้าสู่วัยรุ่น รับรู้ได้ว่า ร็อกแอนด์โรล คือผลิตภัณฑ์จากการผสมผสานระหว่างบลูส์กับคังทรีและเรธิม์แอนด์บลูส์
นอกจากนี้ ดนตรีแจ๊ส ยังได้รับแรงบันดาลใจจากบลูส์ โดยเฉพาะในสไตล์ของแจ๊สที่เรียกว่า บลูส์แจ๊ส ซึ่งมักจะใช้โครงสร้างของบลูส์และนำมันมาเล่นในรูปแบบแจ๊ส นักดนตรีแจ๊สที่มีชื่อเสียง เช่น Louis Armstrong ,Duke Ellington ได้นำเอาเอกลักษณ์ของบลูส์มาในการแสดงเพลงของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น เซิลส์และโซล หรือเพลงเซิลส์ก็ได้รับอิทธิพลจากบลูส์มากมาย ในยุค 1960s และ 1970s นักดนตรีเซิลส์เช่น Aretha Franklin Otis Reddingและ Sam Cooke ได้ใช้ความรู้สึกและแนวเพลงจากบลูส์มาสร้างเสียงเซิลส์ เพลงโฟร์คซอง ที่ทั้งอารมณ์ และมีจังหวะ มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและรูปแบบ ดนตรีแนว บลูส์ (blue) ของแนวดนตรีหลายแนว และยังคงเป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักดนตรีในยุคต่อไป
นักดนตรีบลูส์ คนใดที่ถือว่าได้เปลี่ยนแปลงสะท้อนความรู้สึกของผู้ฟังและพัฒนาเสียงของบลูส์ในยุคต่อไป
นับแต่การกำเนิดของ เพลงบลูส์ เพราะๆ มีนักดนตรีหลายคนที่มีบทบาทในการพัฒนาและนำเสนอเสียงบลูส์ในแบบใหม่ หากต้องกล่าวถึงนักดนตรีคนหนึ่งที่ถือว่าได้เปลี่ยนแปลงและพัฒนาเสียงของบลูส์อย่างแท้จริง มิสเตอร์ บี.บี. คิง (B.B. King) นักดนตรี บลูส์และ นักดนตรีแจ๊ส ระดับโลก คงไม่พลาดสิทธิ์ที่จะถูกพูดถึง ด้วยการเล่นกีตาร์ที่มีเสียงโซโล่ที่ชัดเจนและการใช้เทคนิค วิบระเบิด มิสเตอร์ บี.บี. คิงได้นำเสนอเสียงบลูส์ที่มีเสน่ห์พิเศษและเป็นเอกลักษณ์ เพลงเช่น The Thrill Is Gone หรือ Lucille ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศของเขาในการนำเสนอ เพลงบลูส์ คือ ในแบบของเขาเอง พร้อมทั้งความสามารถในการผสมผสานบลูส์แบบดั้งเดิมกับเสียงดนตรี บลู ภาษาอังกฤษ ที่ทันสมัย จนทำให้เขาได้รับการยอมรับในฐานะหนึ่งในนักดนตรีบลูส์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
บลูส์อคูสติก (Acoustic Blues) แตกต่างจากบลูส์ไฟฟ้า (Electric Blues) อย่างไร
เพลง แนว blues เป็นสองสไตล์ของบลูส์ที่แตกต่างกันด้วยเครื่องดนตรีและอารมณ์ที่ใช้ในการสร้างเสียง การแตกต่างของสองสไตล์นี้ไม่ได้หมายความว่าหนึ่งแบบดีกว่าอีกแบบหนึ่ง แต่เป็นเพียงแค่การนำเสนอบลูส์ในแบบที่ต่างกันตามความเป็นมาและความนิยม :
- เครื่องดนตรี: การแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการใช้เครื่องดนตรี สำหรับ เพลงบลูส์ สากล นักดนตรีมักจะใช้กีตาร์แอคคูสติก กีตาร์โดบโร หรือฮาร์มอนิก้า เป็นต้น ในขณะที่บลูส์ไฟฟ้าจะใช้กีตาร์ไฟฟ้า เบสไฟฟ้า และกลองไฟฟ้า
- เสียง: บลูส์อคูสติก มีเสียงที่เป็นธรรมชาติและแบบเรียบง่าย มักจะมีความรู้สึกของการถูกเล่นในบริเวณที่เงียบ ส่วนบลูส์ไฟฟ้ามักจะมีเสียงที่หนักแน่นและมีพลังมากขึ้น เนื่องจากการใช้ขยายเสียง
- ประวัติศาสตร์: อคูสติก เกิดขึ้นก่อน และมักจะเกี่ยวกับเรื่องราวและความรู้สึกของคนผิวสีในยุคก่อนหน้า ในขณะที่บลูส์ไฟฟ้าเกิดขึ้นในช่วงปลายยุค 1940s ในเมืองใหญ่ เมื่อเครื่องขยายเสียงและกีตาร์ไฟฟ้าเริ่มเป็นที่นิยม
- รูปแบบการเล่น: นักดนตรีบลูส์ มักจะเล่นเดี่ยวหรือเป็นกลุ่มเล็กๆเป่า หีบเพลงปาก ส่วนบลูส์ไฟฟ้ามักจะมีวงดนตรีที่มากกว่า โดยมักจะมีกีตาร์โซโล่ กีตาร์ริทึ่ม เบส และกลอง
- การแสดงสด: เล่นเปียโน กับกีต้าร์ มักจะถูกเล่นในบริบทที่เงียบสงบ เช่น คาเฟ่หรือบาร์เล็กๆ ในขณะที่บลูส์ไฟฟ้าเหมาะสมกับคอนเสิร์ตในสถานที่ที่ใหญ่และมีการขยายเสียง
- การแต่งเพลง: ในทั้งสองสไตล์ เนื้อเพลงมักจะเกี่ยวกับความรู้สึก ความรัก ความเสียหาย และประสบการณ์ชีวิต แต่บลูส์มักจะมีความรู้สึก ดนตรีเศร้า ที่เชื่อมต่อกับรากฐานและประวัติศาสตร์ของคนผิวสีมากกว่า
ดนตรีบลูส์ แจ๊ส แตกต่างกันอย่างไร ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมและความเป็นชีวิตของคนในยุคนั้น
ดนตรีแนว บลูส์ (blue) เป็นการสะท้อนธีมและเรื่องราวที่แทนถึงความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของคนผิวสี เฉพาะในยุคเริ่มต้นของการเกิดขึ้นของแนวดนตรีนี้ในสังคมชาวแอฟริกันอเมริกันในสหรัฐอเมริกา ธีมที่ปรากฏบ่อยใน เพลง แนว blue ประกอบด้วยความเสียใจ ความรัก การต่อสู้เพื่อชีวิต และประสบการณ์ในการทำงานแรงงานหนักๆ เช่น การทำงานในทุ่งข้าวโพดหรือระบบการทำงานบังคับในภาคใต้ของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ มันยังรวมถึงการต่อสู้กับระบบกฎหมายและการเลือกตั้ง ความอธิบายในภาวะเศรษฐกิจ และการแสวงหาเสรีภาพและการเท่าเทียมกัน การถูกทอดทิ้งจากคู่รัก การหลงรัก และความอยากได้มากขึ้นจากชีวิตก็เป็นธีมที่บ่อยครั้งถูกนำมาประยุกต์ใช้ในเพลงบลูส์
เพลงแนวบลูส์ ของไทย รวมไปถึง เพลงแนวบลูส์ สากล แตกต่างจากเพลงประเภทอื่นๆ โดยการที่มันสะท้อนถึงความหนักหน่วง ความต้องการ และความทรมานของคนผิวสีในยุคที่ทราบถึงความเท่าเทียมทางสังคมที่ยังคงเป็นปัญหา ดังนั้น บลูส์มักจะถูกมองว่าเป็น เสียงของคนตกทุกข์ แต่ทว่า พร้อมกับการสะท้อนถึงความทุกข์ทรมาน เพลงบลูส์ก็มีความหวัง ความสุข และการรู้สึกของความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมและตัวตนเองของคนผิวสี ซึ่งทำให้แนวดนตรี วงบลูส์ นี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งบันทึกประวัติศาสตร์และสังคม แต่ยังเป็นแหล่งแรงบันดาลใจสำหรับนักดนตรีและแฟนดนตรีจากทั่วโลก
เพลงบลูส์ เป็นแนวดนตรีที่เกิดขึ้นในชุมชนคนทำงานแอฟริกันอเมริกันในภาคใต้ของสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 เพลงแนวบลูส์ คือ ดนตรีนี้สะท้อนถึงความเสียใจ ความทุกข์ทรมาน และความหวังในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในการปฏิบัติงานแรงงานหนัก และการยึดมั่นเชื่อมั่นในศรัทธา เนื้อเพลงบลูส์มักจะถูกสร้างขึ้นด้วยโครงสร้างที่เรียกว่า AAB คือบรรทัดแรกซ้ำไปยังบรรทัดที่สอง และแล้วท้ายท้ายด้วยบรรทัดที่สามที่แตกต่าง ดนตรีบลูส์มีการใช้ความเฉื่อยและการประยุกต์ใช้เครื่องดนตรีอย่าง กีต้าร์บลูส์ ฮาร์โมนิก้า และเปียโนอย่างแพร่หลาย แนวดนตรีนี้ได้รับการพัฒนาและการแปรรูปต่อยอดในรูปแบบอื่น ๆ และมีส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับแนวดนตรีอื่น ๆ เช่น แจ๊ส ร็อกแอนด์โรล และ เพลงป็อป บลูส์เป็นพื้นฐานของดนตรีอเมริกันและถูกนำไปเผยแพร่ในทั่วโลก เป็นแนวดนตรีที่สะท้อนถึงความเป็นมนุษย์และความรู้สึกที่แท้จริง https://www.laurelhighlandsbluegrass.com